ขนมจีบหมูพร้อมซาลาเปาหมูสับร้อนๆ
ขนมจีบไม่มีใครไม่รู้จัก
แต่จะหาอร่อยๆเครื่องเยอะต้องทำเองจึงจะถูกใจ และสะใจ
แถมยังให้ลูกๆได้กินผักหลากสีอีกด้วยเรามา เริ่มกันเลยดีกว่า
เครื่องของขนมจีบมีแค่นี้จริงๆ
หมูสับปนมัน 300 กรัม
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
นวดๆจนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ในตู้เย็นครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงหันมาเตรียมผัก ผักที่ผสมลงไปกับเนื้อขนมจีบเพื่อความกรุบกรอบและเป็นการหัดให้เด็กได้กินผักหลากสีไปด้วยได้แก่
แห้วสับละเอียดหรือจะเป็นมันแกวก็ได้
ถ้าต้องการความกรอบ มันแนะนำให้ใช้แห้วสดจะกรอบ หวาน มัน 100 กรัม
หอมหัวใหญ่สับละเอียด 150 กรัม
ต้นหอมสับละเอียด 3
ช้อนโต๊ะ
แครอทขูดฝอย 5
ช้อนโต๊ะ
นำลงผสมกับส่วนผสมของเนื้อหมูอย่างเบามือ
ไม่เช่นนั้นผักจะช้ำ น้ำของผักจะออกมา ทำให้ส่วนผสมแฉะไม่จับตัวเป็นก้อน
เมื่อคลุกเคล้าจนได้ที่แล้วให้นำใบเกี๊ยวมาห่อ
เมื่อห่อได้จนครบให้ฉีดสเปรย์ด้วยน้ำเปล่า
เพื่อไม่ให้แป้งเกี๊ยวแข็ง และน้ำมันกระเทียมเจียวทาขนมจีบที่ห่อไว้เพื่อเวลานำไปนึ่งแล้วจะได้ไม่ติดกันเป็นแพ
นำไปนึ่งไฟปานกลางประมาณ 12-15 นาที
ขนมจีบก็จะสุกน่ารับประทาน
นำมารับประทานกับกระเทียมเจียวและน้ำจิ้มซอสเปรี้ยวหรือที่เรียกกันว่า จิ๊กโฉ่ว
สูตรขนมจีบนี้สามารถนำมาเป็นไส้ของซาลาเปาหมูสับได้อีกด้วย
ไหนๆก็ทำไส้มาแล้วขอเพิ่มการทำแป้งซาลาเปาไปเป็นของแถมด้วยเลยละกันจะได้เป็น
ขนมจีบ ซาลาเปา
ส่วนผสมของแป้งซาลาเปามีสองส่วน
แป้งส่วนที่
1
แป้งตราบัวแดง 350 กรัม
ยีสต์จืด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 230
กรัม
ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
นำผ้าขาวบางชุบน้ำมาคลุมไว้ นำไปพักไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 45-50
นาทีหรือแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า
แป้งส่วนที่
2
แป้งตราบัวแดง 150 กรัม
ผงฟู 1
ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 125
กรัม
เกลือป่น 1/2ช้อนชา
เนยขาว 50 กรัม
เมื่อแป้งส่วนที่ 1 ขึ้นฟูเป็นสองเท่าให้นำมาผสมกับแป้งส่วนที่
2 นวดจนทุกอย่างเข้ากันดี ถ้าหากแป้งดูเหลวไปให้โรยแป้งบัวแดงเพิ่มลงไปทีละน้อย
ถ้าแป้งติดมือมากเกินไปให้นำเนยขาวมาเพิ่มทีละน้อยประมาณครั้งละไม่เกิน 1 ช้อนชา
นวดจนแป้งมีลักษณะเนียน ไม่ติดมือ นำแป้งมาแบ่งเป็นก้อนปั้นให้กลมก้อนละ
50กรัม แผ่เป็นวงกลมแล้วนำไส้หมูสับที่ทำไว้มาวาง
นำมาจับจีบให้สวยงามหรือถ้าจับจีบไม่ได้ให้จับคลุมเป็นก้อนกลมเลยก็ได้แล้วนำไปวางบนกระดาษรอง
พักไว้ 15 นาที
ระหว่างนี้ให้ต้มน้ำใส่ลังถึงให้น้ำเดือดจัด
เพราะยิ่งน้ำเดือดจัดจะทำให้แป้งซาลาเปาขึ้นฟู มีสีขาวน่ารับประทาน
และสิ่งสำคัญที่สุดคือปริมาณน้ำที่ใส่ลงในลังถึงให้ใส่เพียง3/4ของชั้นล่างสุด
เมื่อน้ำเดือดจัด น้ำจะลดลงเหลือเพียง ½ ของลังถึง
ให้นำซาลาเปาที่พักไว้มาเรียงใส่ลังถึง เรียงให้ห่างพอสมควรอย่าให้ชิดขอบลังถึง
เพราะนั่นหมายถึงก้นของซาลาเปาจะแฉะ เพราะน้ำที่ขังรอบๆของลังถึง
เว้นที่ตรงของลังถึงเอาไว้ด้วยเพื่อให้ความร้อนส่งผ่านอย่างทั่วถึง
นำซาลาเปาที่ได้นึ่งในน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาที
ตอนเปิดฝาให้ระวังน้ำที่เกาะอยู่บนฝาจะหยดลงซาลาเปาด้วยเพราะจะทำให้ซาลาเปามีรอยแฉะไม่น่ารับประทาน
เก็บตกเทคนิคในการทำซาลาเปาขนมจีบ
1.เมื่อผสมเนื้อหมูกับผักควรผสมอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ผักช้ำและมีน้ำออกมา
2.หมูที่ผสมเสร็จแล้วควรพักอยู่ในตู้เย็น
เพราะแป้งข้าวโพดจะทำให้หมูเกาะตัวเป็นก้อน เวลานำมาปั้นจะปั้นง่าย
3.แป้งซาลาเปา ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นของยีสต์
แนะนำให้เอาแป้งส่วนที่ 1 มาตากแดดโดยยังคงคลุมผ้าขาวบางชุบน้ำเอาไว้อยู่
กลิ่นของยีสต์จะหายไป
4.เวลานวดแป้งซาลาเปาควรสังเกตว่าแป้งแห้งไปไหม
ถ้าแห้งให้เติมน้ำเพียงเล็กน้อย แป้งแฉะไปให้เติมแป้ง
หรือถ้าแป้งติดมือให้เติมเนยขาวเพียงเล็กน้อย
เทคนิคนี้จะทำให้มือใหม่หัดปั้นทำซาลาเปาง่ายขึ้น
5.การนึ่งควรนึ่งไฟแรง น้ำเดือดจัด
ปริมาณเพียงครึ่งลังถึง เพื่อแป้งที่ได้จะออกมาขาว ฟู
เวลาเปิดฝาก็ควรระวังน้ำหยด
การทำซาลาเปาขนมจีบไม่ยากอย่างที่คิด เครื่องปรุงที่ใช้ก็หาไม่ยาก
มีเพียงไม่กี่อย่าง แต่เราสามารถทำออกมาได้อย่างมืออาชีพถ้าเราใส่ใจ ในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ