วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไมเกรนใครว่าเรื่องเล็ก





ไมเกรนใครว่าเรื่องเล็ก
                ยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทำให้คนเราต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เร่งรีบในกิจวัตรแระจำวันแทบทุกอย่าง จนไม่มีการได้ดูแลตนเองมากนัก จนเกิดอาการป่วย บางคนป่วยด้วยทางกาย บางคนป่วยจากทางใจ (ภายใน) แต่มี 1 โรคที่ทุกคนเป็นกันมาก นั่นก็คือ ปวดหัว ในบางคนอาการปวดหัวอาจลุกลามไปจนถึงปวดหัวไมเกรน (ผู้หญิงมีโอกาสที่จะเป็นได้มากกว่าผู้ชาย) บางคนคิดว่าการปวดหัว เป็นเรื่องเล็ก ทานยาแก้ปวด เดี๋ยวก็หาย นอนมากๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น พฤติกรรมของคนเรา นอกจากจะชอบหาซื้อยามาทานเอง และไม่ชอบที่จะไปพบคุณหมอแล้ว ยังไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น หากจะทำให้อาการแย่ลงอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ แนะนำว่าอย่านิ่งนอนใจรีบปรึกษาคุณหมอจะดีกว่านะคะ
                สาเหตุของการเป็นปวดหัวไมเกรน เป็นที่ทราบกันดีว่า มักจะมีอาการไวต่อความรู้สึกมาก อาจจะเกิดจากความเครียดในหลายเรื่อง การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย กลุ่มยาบางชนิด  กลิ่นฉุน สิ่งแวดล้อม  การปฏิบัติตนในกิจวัตรประจำวัน ซึ่งมาจากนิสัยการนอน บางวันนอนมาก บางวันนอนน้อย  หรือ อาหารบางชนิดก็เป็นการกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ คือ ชา กาแฟ ผงชูรส สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนขึ้นได้ ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีอาการและระดับการปวดหัวไมเกรนต่างกันออกไป
อาการของการเป็นปวดหัวไมเกรน จะมีลักษณะคล้ายๆ ปวดหัว แต่จะปวดมากกว่าปกติ ปวดตุ๊บๆ ข้างเดียว บางครั้งก็อาจจะปวดไปจนถึงในเบ้าตาเลยทีเดียว หากปวดหัวมากกว่า 3-4 ครั้งต่อเดือน หรือ ปวดหัวทุกๆ 3-4 ชั่วโมง ในบางครั้งอาจจะปวดเพิ่มมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย บางครั้งได้รับกลิ่นอะไรที่ฉุนๆ ก็รู้สึกปวดหัวได้ทันที สำหรับบางรายที่ปวดหัวไมเกรนมากๆ อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้จนอาเจียนร่วมด้วย แสงแดดและเสียงที่ดังจนเกินไปก็อาจจะทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน  ลักษณะอาการเหล่านี้หากท่านสังเกตว่ามีอาการ 1 ในที่กล่าวมา นั่นก็แสดงว่าท่านได้มีอาการปวดหัวไมเกรนกันแล้วละคะ
ผู้หญิงเราการปวดหัวไมเกรน ที่มีผลการมีประจำเดือน  จะสังเกตได้จากการมีอาการปวดหัวประมาณ 1-3 วันแรกก่อนการมีประจำเดือน และหากเป็นเช่นนี้บ่อยๆ ก็ไม่ควรปล่อยละเลย ต้องรีบปรึกษาแพทย์นะคะ ซึ่งดิฉันก็เป็นค่ะ วันนี้ดิฉันก็พึ่งไปพบคุณหมอมาค่ะ ก็เลยได้รับคำแนะนำดีๆ จากคุณหมอมาฝากกันค่ะ
วิธีรับมือกับอาการปวดหัวไมเกรน
-                   คอยสังเกตอาการปวดหัวไมเกรนของตนเอง หรือทำการจดบันทึกไว้ก็ได้ค่ะ เผื่อจำไม่ได้
-                   หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนเพิ่มมากขึ้น เช่น ความเครียดจากเรื่องงาน หรือปัญหาครอบครัว (นั่งสมาธิ)  กลิ่นฉุน (พกยาดมไว้ก็ดีนะคะ) แสงแดดที่ร้อนจัด (ในกระเป๋าพกร่มไว้เสมอ อันเล็กๆ ก็ได้ค่ะ)
-                   ออกกำลังกายด้วยการวิ่งเบาๆ หรือการวิ่งจ๊อกกิ้ง ช่วยลดความเครียดได้ค่ะ
-                   การพักผ่อน ก็ช่วยได้ค่ะ เพียงแต่คุณจะต้องพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่นอนจนมากเกินไปในวันหยุด หรือนอนน้อยจนเกินไปในวันทำงาน ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นแบบสม่ำเสมอ ก็จะช่วยได้ค่ะ
-                   การแพ้ยา ดิฉันไปพบคุณหมอครั้งแรก ก็ได้รับยามารับประทาน แต่รับประทานได้แค่ 2 มื้อ อาการที่แพ้ ก็คือ การเกิดผื่นที่ริมฝีปาก เป็นเม็ดเล็กๆ ก็ต้องหยุดทาน และต้องพบคุณหมอใหม่เพราะอาการไม่มีดีขึ้นเลย คุณหมอก็ได้วินิจฉัยและทำการจ่ายยามาให้ใหม่  สังเกตได้ว่าหากมีอาการผิดปกติจากยาที่ได้รับ (ดิฉันไม่เคยแพ้ยาใดๆ) ก็ต้องรีบหยุดยาและปรึกษาคุณหมอใหม่ค่ะ
-                   หากมีอาการปวดหัวมากๆ วิธีแก้ไขในเบื้องต้นคือการนวดต้นคอ หยุดการทำงานทุกอย่าง ผ่อนคลายในห้องที่มีความเงียบ สักพักหนึ่ง อาการก็จะดีขึ้นค่ะ (หากประคบเย็นร่วมด้วยก็จะดีเร็วขึ้นค่ะ)
** สังเกตตัวเองง่ายๆ ว่าเป็นปวดหัวไมเกรนหรือไม่ ก็คือ มีการอาการปวดหัวมากกว่า 3 ครั้งต่อเดือน ทานยาก็ไม่หาย ก็ควรไปพบคุณหมอได้แล้วละค่ะ อย่าเป็นเหมือนดิฉันที่หาซื้อทานยาเอง จนไม่อาการลุกลามจนถึงปวดหลังร่วมด้วย ตอนนี้ก็ทานยา ประมาณ 3-4 ชนิด ต่อมื้อกันเลยทีเดียวค่ะ สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญและเป็นของเรานะคะ ต้องดูแลกันหน่อยแล้วละคะ ***






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น