วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลูกฉลาด เริ่มที่คุณแม่





ลูกฉลาด เริ่มที่คุณแม่        
หากถามถึงความฉลาด ไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนไม่ต้องการให้ลูกน้อยฉลาด คุณพ่อคุณแม่ต้องเอาใจใส่ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์เลยทีเดียว ลูกน้อยจะฉลาดมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรมที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น  สิ่งแวดล้อมรอบตัว  ความรู้ที่คุณพ่อคุณแม่มอบให้ประสบการณ์การเรียนรู้เอง การดูแลเอาใจใส่ของทุกคนรอบข้าง
ปัจจุบันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ ให้ลูกน้อยของคุณแม่ทั้งหลายมีความฉลาดมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากอยากให้ลูกฉลาด ก็ให้ลูกเรียนพิเศษ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความสามารถในการเรียน จนลืมไปว่า ปัจจัยที่สำคัญที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ก็คือ ครอบครัว หากครอบครัวอบอุ่น ให้คำแนะนำที่ดี เอาใจใส่ลูกน้อยตั้งแต่เล็กจนเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ลูกน้อยของท่าน นอกจากจะฉลาดทันคนแล้ว สามารถอยู่รอดได้ในโลกปัจจุบัน
อีกวิธีหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ สามารถเพิ่มความฉลาดให้ลูกน้อยได้ โดยเริ่มจากการดูแลเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ลูกน้อยของท่านอยู่ในครรภ์ค่ะ คุณพ่ออาจจะมีส่วนช่วยบ้าง เช่นการพูดคุยลูกน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่เองจะเป็นคนเดียวที่สามารถเพิ่มพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ได้เป็นอย่างดี  เพราะคำว่าสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกลึกซึ้งกว่าสิ่งใด
                ความสำคัญของการทำให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในครรภ์ คุณแม่เองต้องทราบและต้องศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกน้อยเมื่ออยู่ในครรภ์ ว่ามีการพัฒนาการอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงการตั้งครรภ์ค่ะ
-                   ระยะการตั้งครรภ์ 1-3 เดือนแรกของคุณแม่ พัฒนาการของลูกน้อยก็คือ การเริ่มสร้างอวัยวะ กล้ามเนื้อ รวมถึงเชลล์ประสาท ช่วงนี้คุณแม่ต้องระมัดระวังในหลายๆ เรื่อง ทั้งการกินอาหาร ยา  ดูแลสุขภาพตนเองให้ดีอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
-                   ระยะการตั้งครรภ์ 4-6 เดือน ช่วงนี้คุณแม่จะรู้สึกว่าลูกดิ้น นี่คือการแสดงว่า ลูกน้อยมีการพัฒนาการการได้ยินขึ้น คุณแม่สามารถพูดคุย ร้องเพลง หรือฟังเพลงกับลูกน้อยได้ค่ะ เพิ่มความสัมพันธ์ ความใกล้ชิด วิธีนี้เป็นพัฒนาการในเรื่องของภาษา การรับรู้ และการตอบโต้ระหว่างแม่และลูกน้อยค่ะ เพลงที่จะฟังร่วมกับลูกน้อยก็ควรเป็นเพลงนุ่มนวล และเสียงก็ไม่ควรดังเกินไป (คุณแม่เปิดฟังเองก่อนนะคะ ให้อยู่ในระดับที่เบาๆ )  
-                   ระยะการตั้งครรภ์ 7-9 เดือน ลูกน้อยจะมีพัฒนาการการรับรู้ได้มากขึ้น สังเกตได้จากการดิ้น เตะ ถีบ การสัมผัสด้วยการลูบท้อง ไม่ว่าจะเป็นลูบเป็นวงกลมหรือลูบขึ้นลง ก็เป็นสัมผัสที่อ่อนโยน ลูกน้อยสามารถรับรู้ได้ เช่น ลูกน้อยถีบคุณแม่แรงๆ จนท้องบิดเบี้ยวไปข้างใดข้างหนึ่ง เพียงแค่คุณแม่ลูบบริเวณนั้นเบาๆ ลูกน้อยก็จะค่อยๆ กลับตัวในท้องให้อยู่ในท่าเดิมลูกน้อยรับรู้ถึงการหิว และลูกน้อยจะรับรู้ถึงแสงสว่าง หรือมืดได้ค่ะ แนะนำว่าเพิ่มพัฒนาการมองเห็นด้วยการส่งไฟที่บริเวณหน้าท้อง ห่างจากหน้าท้องพอสมควร และห้ามส่องนานนะคะ หรืออาจจะส่องเป็นไฟกระพริบเป็นการกระตุ้นการมองเห็นและปรับตัวให้พร้อมออกมาดูโลกภายนอกได้ค่ะ
นอกจากนี้ คุณแม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกน้อยได้น้อยหรือมาก ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคุณแม่เองด้วยนะคะ คุณแม่ที่มีอารมณ์ดีตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ ลูกน้อยที่ออกมาลืมตาดูโลก ก็จะอารมณ์ดี ไม่งอแง เลี้ยงง่าย หากคุณแม่รู้สึกเมื่อยล้าจากการรับน้ำหนักในแต่ละวัน แนะนำว่าให้คุณแม่นวดขาหรือเท้า เพื่อผ่อนคลาย หรืออาจจะใช้น้ำหอมระเหย กลิ่นที่คุณแม่ชอบด้วยก็ได้ค่ะ เพราะนอกจากคุณแม่จะผ่อนคลายแล้ว ลูกน้อยในครรภ์ก็ได้ผ่อนคลายไปด้วยเช่นกันค่ะ
การทานอาหารสำหรับคุณแม่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญสำหรับลูกน้อยในครรภ์ค่ะ เพราะถ้าคุณแม่ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ทุกอย่างส่งผลให้คุณแม่และลูกน้อยตรงกัน เหมือนที่กล่าวกันว่า แม่กินอะไรลูกก็ได้อย่างนั้น
การออกกำลังกายสำหรับคุณแม่นั้น อาจจะเป็นแค่การเดินเล่นไปมาในสวน แค่นี้ลูกน้อยเองก็ได้ออกกำลังกายเช่นกันค่ะ
คุณแม่ทั้งหลายอาจจะได้รับการแนะนำมากจากคุณหมอ หรือ ญาติ คนใกล้ชิดแนะนำมาแล้วส่วนหนึ่ง ขอแนะนำวิธีเหล่านี้ไปปฏิบัติดูก็ได้ค่ะ รับรองว่าได้ผลดีเลยทีเดียว







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น