วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ความ ผูกพันสร้างได้




ความ ผูกพันสร้างได้
                 ถ้าคุณต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว ไม่ได้มีโอกาสกลับบ้านพาหลานไปหาปู่ย่าตายายบ่อยนัก และกลัวว่าหลานจะจำท่านไม่ได้  กลัวว่าหลานจะไม่ผูกพันกับท่าน  หรือกลัวว่า หลานจะมองว่าท่านเป็นคนแปลกหน้าและไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่ให้อุ้ม ทำให้ปู่ย่าตายายจะเสียใจ ฉันเคยผ่านความกลัวแบบนั้นมาหมดแล้ว และฉันก็พยายามคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ลูกของฉันคุ้นเคยกับท่าน  และฉันก็ทำสำเร็จด้วยวิธีธรรมดาๆที่บางทีเราก็ลืมคิดถึงไป

1.             ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ลูกชายของฉันเกิด เป็นช่วงที่ระบบการสื่อสารยังไม่ทันสมัยเท่านี้ ไม่มีโทรศัพท์ที่โทรแล้วเห็นหน้ากันได้ สไกป์ก็ยังไม่มี การติดต่อสื่อสารสารของฉันคือมือถือที่ได้ยินแต่เสียงเท่านั้น ดังนั้น การที่เราจะให้ลูกเราจำญาติพี่น้องของเราให้ได้ จึงต้องใช้เสียงเป็นตัวเชื่อมให้ลูกจดจำได้  ทุกครั้งที่ฉันคุยกับญาติพี่น้อง  ฉันจะเปิดลำโพงในมือถือให้เขาได้ยินไปด้วย   เมื่อเวลาเจอญาติ  เขาก็จะพอจำเสียงได้ค่ะ
2.             ฉันจะให้โทรหาพ่อแม่ของฉันเป็นประจำทุกเสาร์ อาทิตย์  และให้ลูกได้สวัสดี คุย ทักทาย ยิ่งปัจจุบันนี้ สามารถคุยและเห็นหน้ากันได้ ยิ่งทำให้เด็กคุ้นเคยกับญาติพี่น้องได้เร็วขึ้น   บางทีคุยกันได้เป็นชั่วโมงโดยที่เด็กก็ไม่เบื่อ  ฉันจะให้ลูกฉันเล่นตามปกติ อยากทำอะไรก็ทำ  แค่ให้นั่งอยู่ใกล้ๆกับที่ฉันคุย และ ก็เอามือถือวางไว้ในตำแหน่งที่เขาสามารถเห็นปู่ยาตายาย  บางทีเวลาลูกสาวคนเล็กของฉัน 2 ขวบ เล่นไปเพลินๆ  เขาก็จะหันไปชวนปู่ย่าตายายที่อยู่ในมือถือเล่นด้วยค่ะ  ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติไม่ต้องสอน เมื่อเด็กไว้ใจว่าไม่ใช่คนแปลกหน้า  เขาจะอยากพูดคุยด้วย
3.             ทุกครั้งที่เจอญาติพี่น้อง ฉันไม่เคยลืมนำหลานไปถ่ายรูปคู่กันไว้ ต้องเป็นภาพคู่นะคะ เพราะเด็กจะรู้สึกผูกพันมากกว่าและรับรู้ได้ว่า คนๆนี้ ไม่ใช่คนแปลกหน้า
4.             ฉันจะนำรูปที่ถ่ายไว้ มาให้ลูกดูเป็นประจำสม่ำเสมอ และบอกด้วยว่า แต่ละคนเป็นใคร และเขารักและคิดถึงเสมอ
5.             พูดถึงญาติพี่น้องให้ลูกฟังเสมอผ่านสิ่งต่างๆ รอบตัว  เช่น " เสื้อตัวนี้อี๊ซื้อให้ใส่แล้วน่ารัก หุ่นยนต์ตัวนี้อาม่าซื้อให้ เพราะรู้ว่าหนูชอบ "
6.             บอกลูกเสมอว่า ใครรักเขาบ้าง และห้ามลืมบอกถึงคนที่อยู่ไกลตัวที่เราต้องการให้เขารับรู้ว่า   รักเขาด้วย
7.             เวลาสอนลูกว่า ห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้า ต้องอย่าลืมบอกด้วยว่า ญาติๆของเรา เช่น “ อากง อาม่า อี๊  กู๋    ถึงแม้นานๆ เจอกันที ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้านะ   ไม่ต้องกลัว  ถ้าเขาชวนไปไหน หนูก็ไปกับเขาได้ ”
8.              บอกลูกด้วยว่าใครเป็นใคร เช่น อากงเป็นพ่อของแม่ อาม่าเป็นแม่ของแม่ ใจดีทั้งสองคนและเลี้ยงแม่มา เหมือนที่แม่เลี้ยงหนูมา หนูไม่ต้องกลัว  เวลาเจอเล่นกันได้  ทุกคนรักหนู
9.                                     ถ้าครอบครัวของฉันส่งพัสดุมาให้ฉันและลูกๆ ฉันจะรอเปิดพร้อมกัน และก็จะบอกว่า  “ ใครส่งมาให้  มาดูกันสิว่า เขาซื้ออะไรมาฝากบ้าง ” และสอนว่า " ที่เขาซื้อของ ส่งมาให้เรา เพราะ เขารักเรา    รู้ว่าเราชอบอะไร  อยากได้อะไรก็ซื้อส่งมาให้   เขาคิดถึงพวกเราตลอดเวลา "
10.                              เวลาลูกเล่นของเล่น หรือใส่เสื้อผ้าที่ญาติพี่น้องเราให้มา เราต้องคอยบอกเขานะคะว่า ใครซื้อให้ และต้องรักษาให้ดี คนที่เขาซื้อให้จะได้ดีใจ
11.                                ที่สำคัญที่สุด เมื่อถึงวันที่จะได้ไปเยี่ยมเยียน อย่าทำอะไรให้ดูแปลกกว่าปกติ ไม่ต้องทำท่าตื่นเต้นเกิน เพราะเด็กจะงงว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย เพียงแค่เราบอกว่า เราจะไปหาใคร และทบทวนความจำเกี่ยวกับคนๆ นั้นให้ลูกฟัง และอย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือมาฝากญาติด้วย และฉันก็จะบอกลูกว่า “ เมื่อเขารักเรา ใจดีกับเรา ซื้อของฝากเราเสมอ เมื่อเราไปหา เราก็รักเขาเหมือนกัน เราก็ต้องซื้อของไปฝากเช่นเดียวกัน
12.                              และเมื่อลูกได้เจอให้เวลาปรับตัวเข้าหากันสักนิด อย่ารีบบังคับให้ไปอยู่ด้วยกัน เราก็อยู่ด้วยก่อนในตอนแรก สักพักหนึ่ง เด็กจะเริ่มค่อยๆ กล้าที่จะไปหาเอง  และถ้าเราจะไปไหน ก็ไปได้ค่ะ แต่ต้องบอกเขาด้วยว่าไปไหน และเดี๋ยวจะกลับมา ห้ามหนีหายไปนะคะ เพราะมิเช่นนั้น ถ้าเขาหาเราไม่เจอ เขาจะกลัวมากๆและสิ่งที่เราพยายามปลูกฝังมาทั้งหมดเกี่ยวกับญาติที่น่ารักใจดีของเรา อาจจะถูกลบออกไปจากความจำเลยก็ได้ค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่อยู่ห่างไกลจากครอบครัวเหมือนฉัน ลองนำวิธีของฉันไปใช้ดูนะคะ
รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ  ลูกฉัน 2 คน  ฉันใช้วิธีเดียวกัน  ทุกวันนี้  สนิทกับอาม่า อากง อี๊ และกู๋ มากๆ   คนเป็นแม่อย่างฉันก็มีความสุขค่ะ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น