ดูแล 100 วัน ลูกน้อยร้องไห้โคลิค
เด็กทารก
เมื่อคลอดออกมาลืมตาดูโลก ก็ต้องใช้เวลานานในการปรับตัว
เพื่อให้เข้ากับสิ่งรอบข้าง หากคุณแม่ปฏิบัติตนถูกต้องในขณะตั้งครรภ์
ลูกน้อยที่คลอดมาก็จะไม่งอแง เลี้ยงง่าย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในเด็กทารกทั้งชายและหญิงก็คือ
การร้องไห้โคลิค หรือการร้องไห้ 100 วัน จะเกิดในช่วงเวลาอายุ 1-4 สัปดาห์
ซึ่งจะมีอาการหน้าแดง ตัวงอ (ขาจะงอมาอยู่ตรงหน้าท้อง) จะร้องไห้เสียงดัง
แผดเสียงแหลม ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ในบางรายอาจจะร้องไห้ 2-3 ชั่วโมง ต่อวัน
(แต่ไม่ได้ร้องไห้ทุกวัน) อาจจะร้องไห้ประมาณช่วงสายๆ หรือช่วงเย็นๆ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองเมื่อลูกน้อยอายุประมาณ
3 เดือน
คุณแม่มือใหม่
อาจจะตกใจหรืออาจจะเกิดอาหารเครียดไปเลย และยังคงสงสัยว่าลูกน้อยเป็นอะไร
ทำไมร้องไห้ไม่ยอมหยุด ให้ดูดนมก็แล้ว อุ้มก็แล้ว พาดบ่าก็แล้ว ไม่ยอมหยุด
ในเบื้องต้นให้คุณแม่ตรวจสอบสาเหตุมาจากการปวดท้อง อืดท้องหรือไม่
ถ่ายเหลวผิดปกติ อาเจียนด้วยหรือไม่ หรือมีผื่นขึ้นตามตัว ท้องของลูกน้อยมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติหรือไม่
เพราะบางทีอาจจะเกิดจากการแพ้นมวัว ซึ่งย่อยยากในเด็กทารก (ในกรณีที่ลูกน้อยทานนมวัว) คุณแม่บางท่านหาจุกนมปลอมให้ลูกน้อยแทน
อันนี้ไม่แนะนำนะคะ เพราะจะทำให้ลูกน้อยดูดลมเข้าไปอีก จะปวดท้องมากขึ้นค่ะ
ในเด็กทารกที่คุณแม่ให้ทานนมคุณแม่เอง
อาจจะเกิดจากการดูดนมอิ่มแล้ว คุณแม่ไม่ไล่ลมให้ลูกน้อย คุณแม่ต้องไล่ลมในท้องให้ลูกน้อยทุกครั้งที่ลูกน้อยดูดนมเสร็จแล้ว
แม้ว่าลูกน้อยจะหลับแล้วก็ตาม เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการสะสมลมในท้องเด็กได้ค่ะ
หรืออาจจะเกิดจากอาหารที่คุณแม่ทานเข้าไป ซึ่งจะมีผลกับลูกน้อยโดยตรง เช่น พริก
หัวหอม กระเทียม ช่วงที่คุณแม่คลอดใหม่ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่ทำให้รู้สึกเผ็ดหรือฉุนค่ะ แต่ควรทานอาหารประเภทที่ช่วยกระตุ้นน้ำนม
และช่วยขับลมให้ลูกน้อยด้วย เช่น ผัดขิง ค่ะ
วิธีดูแลลูกน้อยเมื่อเกิดอาการร้องไห้โคลิค
-
อุ้มลูกน้อยเสมอ
อุ้มในท่าตะแคงก็ได้ค่ะ เพราะลูกน้อยที่เพิ่งคลอดอาจจะยังไม่คุ้นกับการอยู่นอกครรภ์แม่
ยังต้องการปรับตัวอีกหลายวัน
คุณแม่อาจจะโยกตัวไปด้วยให้เหมือนกับตอนลูกน้อยอยู่ในครรภ์ จะลดอาการร้องไห้ได้ค่ะ
-
หลังจากอาบน้ำเสร็จ
ควรห่อตัวลูกให้ถูกต้อง ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเหมือนอยู่ในครรภ์แม่ค่ะ
-
เขย่าลูกน้อยเบาๆ
ทำให้ลูกน้อยได้รู้สึกว่า เหมือนอยู่ในครรภ์แม่
-
ร้องเพลงกล่อมลูกเบาๆ
ให้ลูกน้อยรู้สึกว่าคุณแม่อยู่ใกล้ๆ เสมอ
-
ให้ลูกน้อยดูดนม บางทีลูกน้อยอาจจะเกิดอาการหิว
หรือดูดนมยังไม่อิ่ม แต่ดันหลับไปก่อน
-
ไม่ควรให้รับประทานยา
เพราะในเด็กทารกยังไม่พร้อมที่จะรับยาปฏิชีวนะใดๆ เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้
-
เปลี่ยนนมที่ลูกน้อยทานอยู่
(ในกรณีที่ทานนมผง)
-
ปิดเสียงทุกอย่างในห้อง
เพื่อให้เกิดความเงียบ จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบาย
เพราะลูกน้อยอาจจะยังไม่ชินกับการได้ยินเสียงมากเกินไป ไม่เหมือนกับตอนอยู่ในครรภ์
-
หากลูกน้อยร้องไห้ติดต่อกันเกินกว่าที่กำหนด
(2-3 ชั่วโมง ใน 3 วันต่อ 1 สัปดาห์) ก็ควรพาลูกน้อยไปปรึกษาแพทย์
สังเกตว่าวิธีเหล่านี้
ล้วนเป็นวิธีที่ทำให้ลูกน้อยได้รู้สึกเหมือนตอนอยู่ในครรภ์
เพราะลูกน้อยจะรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเสมอ
** การเข้าใจลูกน้อยที่เพิ่งคลอด ไม่ยากค่ะ
เพียงแต่ทำความเข้าใจแค่นี้ก็สามารถดูแลลูกน้อยได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่อาจจะหาหนังสือมาอ่านประกอบการเลี้ยงดูลูกน้อยด้วยก็ได้ค่ะ
เป็นอย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจลูกน้อยได้อีกทาง
** การร้องไห้ในเด็ก เกิดผลดีก็คือ
ช่วยให้ปอดของลูกน้อยทำงานได้ดีขึ้น แต่หากว่าลูกน้อยร้องไห้มากไป
อาจจะเกิดผลเสียกับคุณแม่ คือ คุณแม่จะเกิดอาการเครียดจนมากไป จึงจำเป็นต้องมีคนช่วยดูแลด้วยในช่วงระยะนี้ค่ะ
เพื่อให้คุณแม่คลายเครียดบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น