วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

ดูแล 100 วัน ลูกน้อยร้องไห้โคลิค




ดูแล 100 วัน ลูกน้อยร้องไห้โคลิค
                เด็กทารก เมื่อคลอดออกมาลืมตาดูโลก ก็ต้องใช้เวลานานในการปรับตัว เพื่อให้เข้ากับสิ่งรอบข้าง หากคุณแม่ปฏิบัติตนถูกต้องในขณะตั้งครรภ์ ลูกน้อยที่คลอดมาก็จะไม่งอแง เลี้ยงง่าย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในเด็กทารกทั้งชายและหญิงก็คือ การร้องไห้โคลิค หรือการร้องไห้ 100 วัน จะเกิดในช่วงเวลาอายุ 1-4 สัปดาห์ ซึ่งจะมีอาการหน้าแดง ตัวงอ (ขาจะงอมาอยู่ตรงหน้าท้อง) จะร้องไห้เสียงดัง แผดเสียงแหลม ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ในบางรายอาจจะร้องไห้ 2-3 ชั่วโมง ต่อวัน (แต่ไม่ได้ร้องไห้ทุกวัน) อาจจะร้องไห้ประมาณช่วงสายๆ หรือช่วงเย็นๆ  แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองเมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 3 เดือน
                คุณแม่มือใหม่ อาจจะตกใจหรืออาจจะเกิดอาหารเครียดไปเลย และยังคงสงสัยว่าลูกน้อยเป็นอะไร ทำไมร้องไห้ไม่ยอมหยุด ให้ดูดนมก็แล้ว อุ้มก็แล้ว พาดบ่าก็แล้ว ไม่ยอมหยุด  ในเบื้องต้นให้คุณแม่ตรวจสอบสาเหตุมาจากการปวดท้อง อืดท้องหรือไม่ ถ่ายเหลวผิดปกติ อาเจียนด้วยหรือไม่ หรือมีผื่นขึ้นตามตัว ท้องของลูกน้อยมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติหรือไม่ เพราะบางทีอาจจะเกิดจากการแพ้นมวัว ซึ่งย่อยยากในเด็กทารก  (ในกรณีที่ลูกน้อยทานนมวัว)  คุณแม่บางท่านหาจุกนมปลอมให้ลูกน้อยแทน อันนี้ไม่แนะนำนะคะ เพราะจะทำให้ลูกน้อยดูดลมเข้าไปอีก จะปวดท้องมากขึ้นค่ะ
                ในเด็กทารกที่คุณแม่ให้ทานนมคุณแม่เอง อาจจะเกิดจากการดูดนมอิ่มแล้ว คุณแม่ไม่ไล่ลมให้ลูกน้อย คุณแม่ต้องไล่ลมในท้องให้ลูกน้อยทุกครั้งที่ลูกน้อยดูดนมเสร็จแล้ว แม้ว่าลูกน้อยจะหลับแล้วก็ตาม เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการสะสมลมในท้องเด็กได้ค่ะ หรืออาจจะเกิดจากอาหารที่คุณแม่ทานเข้าไป ซึ่งจะมีผลกับลูกน้อยโดยตรง เช่น พริก หัวหอม กระเทียม ช่วงที่คุณแม่คลอดใหม่ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่ทำให้รู้สึกเผ็ดหรือฉุนค่ะ  แต่ควรทานอาหารประเภทที่ช่วยกระตุ้นน้ำนม และช่วยขับลมให้ลูกน้อยด้วย เช่น ผัดขิง ค่ะ
                วิธีดูแลลูกน้อยเมื่อเกิดอาการร้องไห้โคลิค
-                   อุ้มลูกน้อยเสมอ อุ้มในท่าตะแคงก็ได้ค่ะ เพราะลูกน้อยที่เพิ่งคลอดอาจจะยังไม่คุ้นกับการอยู่นอกครรภ์แม่ ยังต้องการปรับตัวอีกหลายวัน คุณแม่อาจจะโยกตัวไปด้วยให้เหมือนกับตอนลูกน้อยอยู่ในครรภ์ จะลดอาการร้องไห้ได้ค่ะ
-                   หลังจากอาบน้ำเสร็จ ควรห่อตัวลูกให้ถูกต้อง ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเหมือนอยู่ในครรภ์แม่ค่ะ
-                   เขย่าลูกน้อยเบาๆ ทำให้ลูกน้อยได้รู้สึกว่า เหมือนอยู่ในครรภ์แม่
-                   ร้องเพลงกล่อมลูกเบาๆ ให้ลูกน้อยรู้สึกว่าคุณแม่อยู่ใกล้ๆ เสมอ
-                   ให้ลูกน้อยดูดนม  บางทีลูกน้อยอาจจะเกิดอาการหิว หรือดูดนมยังไม่อิ่ม แต่ดันหลับไปก่อน
-                   ไม่ควรให้รับประทานยา เพราะในเด็กทารกยังไม่พร้อมที่จะรับยาปฏิชีวนะใดๆ เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้
-                   เปลี่ยนนมที่ลูกน้อยทานอยู่ (ในกรณีที่ทานนมผง)
-                   ปิดเสียงทุกอย่างในห้อง เพื่อให้เกิดความเงียบ จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบาย เพราะลูกน้อยอาจจะยังไม่ชินกับการได้ยินเสียงมากเกินไป ไม่เหมือนกับตอนอยู่ในครรภ์
-                   หากลูกน้อยร้องไห้ติดต่อกันเกินกว่าที่กำหนด (2-3 ชั่วโมง ใน 3 วันต่อ 1 สัปดาห์) ก็ควรพาลูกน้อยไปปรึกษาแพทย์
สังเกตว่าวิธีเหล่านี้ ล้วนเป็นวิธีที่ทำให้ลูกน้อยได้รู้สึกเหมือนตอนอยู่ในครรภ์ เพราะลูกน้อยจะรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเสมอ
** การเข้าใจลูกน้อยที่เพิ่งคลอด ไม่ยากค่ะ เพียงแต่ทำความเข้าใจแค่นี้ก็สามารถดูแลลูกน้อยได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่อาจจะหาหนังสือมาอ่านประกอบการเลี้ยงดูลูกน้อยด้วยก็ได้ค่ะ เป็นอย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจลูกน้อยได้อีกทาง
** การร้องไห้ในเด็ก เกิดผลดีก็คือ ช่วยให้ปอดของลูกน้อยทำงานได้ดีขึ้น แต่หากว่าลูกน้อยร้องไห้มากไป อาจจะเกิดผลเสียกับคุณแม่ คือ คุณแม่จะเกิดอาการเครียดจนมากไป  จึงจำเป็นต้องมีคนช่วยดูแลด้วยในช่วงระยะนี้ค่ะ เพื่อให้คุณแม่คลายเครียดบ้าง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น