วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

วัคซีนป้องกันความอยากมี อยากได้




วัคซีนป้องกันความอยากมี อยากได้
                ลูกชายของฉันวัย 8 ขวบเคยถามฉันว่า  “ แม่เมื่อไรเราจะไปเที่ยวเมืองนอกเหมือนบ้านพี่ป่านสักที เขาไปทุกปิดเทอมเลยนะ  หนูอยากไปบ้าง ” ฉันก็ตอบลูกว่า  “ เราจะไปก็ไปได้นะลูก แต่เมื่อเรากลับมาพ่อแม่ต้องทำงานอีกเยอะมากๆ  เพราะไปครั้งหนึ่งใช้เงินหลายหมื่นบาท  แม่ว่าเราเก็บเงินตรงนั้นไปจ่ายค่าเทอมดีไหมลูก ไปครั้งหนึ่งจ่ายค่าเทอมหนูกับน้องได้หลายเทอมเลยนะ  แม่ว่าสักวันหนึ่ง  เราคงได้ไปกัน ตอนนี้หนูตั้งใจเรียนให้ดี   เรียนให้เก่งๆ โตขึ้นหนูก็มีงานดีๆ เงินเดือนดีๆ ตอนนั้น เราจะไปเที่ยวกันก็ยังไม่สายไปหรอก ” ลูกชายฉันก็เข้าใจและไม่เคยรบเร้าว่าจะไปอีกเลย 
หลายคนอาจจะมองว่าทำไมเข้าใจอะไรง่ายจัง  ที่ลูกของฉันเข้าใจอะไรได้ง่าย เพราะตั้งแต่เด็กฉันก็เล่าถึงฐานะทางครอบครัวให้ลูกฟังตลอด เล่าให้เขาฟังตามที่เขาจะเข้าใจได้ในแต่ละช่วงวัย  ฉันพาเขาไปทำงานด้วยให้เขาเห็นว่า แม่ต้องทำงานอย่างไรกว่าจะได้เงินมาซื้อขนมให้เขา  บางทีไปเดินซื้อขนมกัน  เขาก็อยากกินขนมช็อคโกแลตญี่ปุ่น กล่องละเป็นร้อย  ฉันก็บอกว่า “ มันแพงเกินไปนะซื้อแท่งเดียว  เท่ากับซื้อข้าวกินกันได้ 4 คนพ่อแม่ลูก เอาอย่าอื่นเถอะ ”  ฉันและสามีจะบอกลูกเสมอว่า “ เราไม่ได้จนนะ  แต่เราก็ไม่ได้รวย  เราแค่พอมีพอกิน  แต่ถ้าเราพยายามประหยัดเก็บออม  อนาคตเราจะมีเงิน   หนูก็จะได้เรียนสูงๆ  และมีการงานดีๆทำ   เราอย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆว่า ทำไมเขามีแต่เราไม่มี ”
ฉันว่าการที่พ่อแม่บอกลูกให้ลูกรู้ว่า ฐานะทางครอบครัวของเราเป็นอย่างไร  มันก็ทำให้ลูกเราเข้าใจอะไรได้ง่าย  เมื่อเวลาที่เขาเห็นคนอื่นมีของใหม่ๆ ดีๆ  ที่เขาอยากได้  ความอยากมีอยากได้ เกิดขึ้นได้กับทุกคน  แต่มันก็สามารถหมดไปได้ด้วยเหตุและผลที่เราบอกเขาไป
ทุกวันนี้ถึงแม้ว่า ฉันจะปลูกวัคซีนป้องกันความอยากมีอยากได้ ให้กับลูกชายและลูกสาวทั้งสองของฉันอยู่เสมอ  แต่ฉันก็ไม่เคยนิ่งนอนใจเรื่องเศรษฐกิจภายในครอบครัว  ฉันก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานประจำของฉันให้ดี  และ ก็คิดเสมอว่าจะทำงานอาชีพเสริมอะไรดีที่ฉันพอทำได้ให้มีเงินเพิ่มพูนขึ้นมา  และที่สำคัญ  เงินที่ฉันเก็บออมทุกบาททุกสตางค์ก็อยากให้มันผลิดอกออกผลที่งอกงามที่สุด  ตอนนี้  ฉันเริ่มต้นการฝากเงินแบบประกันชีวิตระยะยาวกับธนาคารของรัฐแห่งหนึ่ง  เพื่อให้เงินของฉันที่ฝากเพื่อลูกทั้งสองผลิดอกออกผลงามที่สุดในอีก 20 ปีข้างหน้า  เมื่อวันที่เขาทั้งสองโตเป็นหนุ่มเป็นสาว  และอยากจะมีเงินก้อนสักก้อนเพื่อลงทุนอะไรกับชีวิตของเขา  และ อีกก้อนเพื่อฉันและสามีในยามแก่ได้ใช้ชีวิตอย่างสบายไม่ลำบอก  ฉันถือคติว่า ตอนมีแรง เหนื่อยไม่ว่า แต่เมื่อแก่ชราขอสุขสบาย





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น