วัคซีนป้องกันความอยากมี
อยากได้
ลูกชายของฉันวัย 8
ขวบเคยถามฉันว่า “
แม่เมื่อไรเราจะไปเที่ยวเมืองนอกเหมือนบ้านพี่ป่านสักที เขาไปทุกปิดเทอมเลยนะ หนูอยากไปบ้าง ” ฉันก็ตอบลูกว่า “ เราจะไปก็ไปได้นะลูก แต่เมื่อเรากลับมาพ่อแม่ต้องทำงานอีกเยอะมากๆ เพราะไปครั้งหนึ่งใช้เงินหลายหมื่นบาท แม่ว่าเราเก็บเงินตรงนั้นไปจ่ายค่าเทอมดีไหมลูก
ไปครั้งหนึ่งจ่ายค่าเทอมหนูกับน้องได้หลายเทอมเลยนะ แม่ว่าสักวันหนึ่ง เราคงได้ไปกัน ตอนนี้หนูตั้งใจเรียนให้ดี เรียนให้เก่งๆ โตขึ้นหนูก็มีงานดีๆ เงินเดือนดีๆ
ตอนนั้น เราจะไปเที่ยวกันก็ยังไม่สายไปหรอก ”
ลูกชายฉันก็เข้าใจและไม่เคยรบเร้าว่าจะไปอีกเลย
หลายคนอาจจะมองว่าทำไมเข้าใจอะไรง่ายจัง ที่ลูกของฉันเข้าใจอะไรได้ง่าย
เพราะตั้งแต่เด็กฉันก็เล่าถึงฐานะทางครอบครัวให้ลูกฟังตลอด เล่าให้เขาฟังตามที่เขาจะเข้าใจได้ในแต่ละช่วงวัย ฉันพาเขาไปทำงานด้วยให้เขาเห็นว่า
แม่ต้องทำงานอย่างไรกว่าจะได้เงินมาซื้อขนมให้เขา
บางทีไปเดินซื้อขนมกัน เขาก็อยากกินขนมช็อคโกแลตญี่ปุ่น
กล่องละเป็นร้อย ฉันก็บอกว่า “
มันแพงเกินไปนะซื้อแท่งเดียว
เท่ากับซื้อข้าวกินกันได้ 4 คนพ่อแม่ลูก เอาอย่าอื่นเถอะ ” ฉันและสามีจะบอกลูกเสมอว่า “ เราไม่ได้จนนะ แต่เราก็ไม่ได้รวย เราแค่พอมีพอกิน แต่ถ้าเราพยายามประหยัดเก็บออม อนาคตเราจะมีเงิน หนูก็จะได้เรียนสูงๆ และมีการงานดีๆทำ เราอย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆว่า
ทำไมเขามีแต่เราไม่มี ”
ฉันว่าการที่พ่อแม่บอกลูกให้ลูกรู้ว่า
ฐานะทางครอบครัวของเราเป็นอย่างไร
มันก็ทำให้ลูกเราเข้าใจอะไรได้ง่าย
เมื่อเวลาที่เขาเห็นคนอื่นมีของใหม่ๆ ดีๆ
ที่เขาอยากได้ ความอยากมีอยากได้
เกิดขึ้นได้กับทุกคน
แต่มันก็สามารถหมดไปได้ด้วยเหตุและผลที่เราบอกเขาไป
ทุกวันนี้ถึงแม้ว่า
ฉันจะปลูกวัคซีนป้องกันความอยากมีอยากได้
ให้กับลูกชายและลูกสาวทั้งสองของฉันอยู่เสมอ
แต่ฉันก็ไม่เคยนิ่งนอนใจเรื่องเศรษฐกิจภายในครอบครัว ฉันก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานประจำของฉันให้ดี และ
ก็คิดเสมอว่าจะทำงานอาชีพเสริมอะไรดีที่ฉันพอทำได้ให้มีเงินเพิ่มพูนขึ้นมา และที่สำคัญ
เงินที่ฉันเก็บออมทุกบาททุกสตางค์ก็อยากให้มันผลิดอกออกผลที่งอกงามที่สุด ตอนนี้
ฉันเริ่มต้นการฝากเงินแบบประกันชีวิตระยะยาวกับธนาคารของรัฐแห่งหนึ่ง
เพื่อให้เงินของฉันที่ฝากเพื่อลูกทั้งสองผลิดอกออกผลงามที่สุดในอีก 20
ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่เขาทั้งสองโตเป็นหนุ่มเป็นสาว
และอยากจะมีเงินก้อนสักก้อนเพื่อลงทุนอะไรกับชีวิตของเขา และ อีกก้อนเพื่อฉันและสามีในยามแก่ได้ใช้ชีวิตอย่างสบายไม่ลำบอก ฉันถือคติว่า ตอนมีแรง
เหนื่อยไม่ว่า แต่เมื่อแก่ชราขอสุขสบาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น