เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานอะไร
เมื่อรู้ว่าเริ่มตั้งครรภ์แม่ทุกคนย่อมต้องห่วงถึงพัฒนาการของทารกในครรภ์
การเลือกรับประทานอาหารที่ดีสำหรับทารกในครรภ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย
เพราะอาหารที่คุณแม่ทานในแต่ละอย่างมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ด้วย ดังนั้นในระยะแรกของการตั้งครรภ์จนถึงเมื่อครบกำหนดคลอดอาหารที่คุณแม่รับประทานในแต่ละมื้อจะถูกนำไปช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองของทารกตลอดระยะเวลา
1-9 เดือน
เราลองมาดูว่าอาหารแต่ละชนิดที่คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานนั้นมีส่วนช่วยในด้านใดต่อทารก
นมสดหรือโยเกิร์ตมีความจำเป็นต่อเนื้อเยื่อสมองซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยในเรื่องของพัฒนาการทางสมองสำหรับทารกในครรภ์ ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อีกด้วย
เพราะในระหว่างที่ตั้งครรภ์นี้คุณแม่ส่วนใหญ่มักมีปัญหาในเรื่องของการขับถ่ายเช่น
อาการท้องผูกซึ่งไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้เพราะอาการจะลุกลามกลายเป็นโรคริดสีดวงยากต่อการรักษา คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรทานนมสดหรือโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน
อาหารทะเลจำพวก
ปลาทะเล กุ้ง หอย สาหร่ายทะเล ปลาหมึก อาหารทะเลพวกนี้จะให้ไอโอดีนซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมอง
ความจำและระบบประสาทของทารกในครรภ์ คุณแม่ควรทานอาหารทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2
ครั้งพยายามอย่าให้น้อยไปกว่านี้เพราะไอโอดีนจากอาหารทะเลจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทารกในครรภ์
และตลอดการเจริญเติบโตของทารกนั้นพัฒนาการทางด้านสมองต้องอาศัยไอโอดีนที่ได้จากอาหารทะเลเป็นหลัก
ตับ
เป็นอาหารที่ให้โฟเลตสูงมีความจำเป็นต่อทารกในครรภ์เพราะจะช่วยสร้างเซลล์สมอง
ระบบประสาทและไขสันหลังให้กับทารกโดยเฉพาะช่วงแรกของการตั้งครรภ์ที่ทารกต้องมีการสร้างเซลล์สมองเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรทานอาหารที่มีโฟเลตสูงเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในการสร้างเซลล์สมองและไขสันหลังของทารกในครรภ์
โฟเลตนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่ในตับเท่านั้นหากแต่ยังมีอยู่ในผักสีเขียวเช่น
หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม บล็อกโคลี ฯลฯ
ถ้าทารกในครรภ์ขาดโฟเลตอาจทำให้เกิดการพิการทางสมองและประสาทตามมานั่นเอง
น้ำมะพร้าว ในน้ำมะพร้าวมีแร่ธาตุที่สำคัญเช่น
น้ำตาล โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
คนสมัยก่อนมักให้คนท้องดื่มน้ำมะพร้าวเยอะๆเพื่อที่เวลาคลอดทารกจะได้ไม่มีไข
(นายแพทย์อนันต์ โลหะพัฒนะบำรุงได้กล่าวไว้ว่า ทารกคลอดใหม่มีไขทุกคนแต่การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าวบ่อยๆจะทำให้ไขเป็นสีขาว
เมื่อคลอดแล้วจึงดูเหมือนว่าไม่มีไขนั่นเอง)
ซึ่งไขที่ติดตัวทารกนั้นมีประโยชน์ต่อคุณแม่และทารกเพราะจะช่วยทำให้คลอดง่าย
และยังช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงจากอุณหภูมิภายนอกอีกด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ถ้ารู้สึกอ่อนเพลียควรดื่มน้ำมะพร้าวสักแก้วเพื่อช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
ผักห้าสี ประกอบไปด้วย ผักและผลไม้สีเขียวเช่น
คะน้า กะกล่ำปลี ผักบุ้ง ชะอม บล็อกโคลี แอปเปิลเขียว กีวี ฯลฯผักสีเขียวนี้จะให้สานคลอโรฟิลล์
ช่วยต้านอนุมูลอิสระและทำให้ขับถ่ายง่าย ผักและผลไม้สีขาวเช่นผักกาดขาว
หัวไชเท้า หอมหัวใหญ่ กระเทียม แอปเปิล ลิ้นจี่ งาขาว ลูกเดือย
ผักสีขาวนี้จะช่วยต้านมะเร็งและช่วยย่อยอาหาร ผักและผลไม้สีม่วงเช่น
กะหล่ำปลีสีม่วง มะเขือม่วง ข้าวโพดสีม่วง พริกหวานสีม่วง ลูกพรุน ลูกเบอรี่
ผักสีม่วงนี้จะช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระเพิ่มความยืดหยุ่นในผนังหลอดเลือดและโรคเลือดหัวใจแข็งตัว
ผักและผลไม้สีแดงเช่นมะเขือเทศ พริกหวานสีแดง
พริกเผ็ดชนิดต่างๆที่มีสีแดง มะเขือเทศ กระเจี๊ยบ สตรอว์เบอรี่ แตงโม เชอรี่
องุ่นแดง ผักสีแดงนี้จะมีไลโคปีนอยู่มากซึ่งช่วยในเรื่องของการลดปริมาณไขมันช่วยดูแลสุขภาพหัวใจและระบบทางเดินปัสสาวะ
ผักและผลไม้สีเหลือง สีส้มเช่น
แครอท ฟักทอง ขนุน ข้าวโพด มะม่วง ผักและผลไม้สีเหลือง ส้มนี้จะให้เบต้า-แคโรทีน
ฟลาโวนอย วิตามินซี ซึ่งจะช่วยในเรื่องหลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทราบถึงคุณประโยชน์ของผักชนิดต่างๆแล้วจึงควรทานผักทุกชนิดเพื่อให้ร่างกายและทารกในครรภ์ได้รับวิตามินต่างได้อย่างครบถ้วน
และพึงระลึกไว้เสมอว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตที่หัวใจของเขาต้องเต้นไปพร้อมกับหัวใจของเราจนกว่าเขาจะครบกำหนดลืมตาดูโลกนั่นเอง
รวีวรรณ เกตุสุทธิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น