วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2559

โรคส่าไข้อีกโรคที่คุณแม่ควรรู้



 

โรคส่าไข้อีกโรคที่คุณแม่ควรรู้

         เวลาของความทุกข์ใจของคุณแม่ทั้งหลายคงจะหนีไม่พ้นเวลาที่ลูกน้อยของเราเจ็บป่วยใช่ไหมคะ เพราะถึงแม้ว่าคุณแม่จะเฝ้าเลี้ยงดูทะนุถนอมลูกน้อยมากแค่ไหนก็คงหนีไม่พ้นการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆที่มีอยู่มากมาย จนส่งผลให้ลูกไม่สบายเนื้อสบายตัวจนอาจถึงขั้นพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเลยก็มี ซึ่งสำหรับลูกชายดิฉันเองก็เพิ่งป่วยจากโรคๆหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ จึงอยากมาเล่าสู่กันฟังถึงโรคชนิดนี้ว่ามีอาการเบื้องต้นอย่างไรและมีวิธีการรักษาและดูแลลูกน้อยอย่างไรบ้าง และโรคชนิดนี้ที่ดิฉันนำมาเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์สำหรับคุณแม่ท่านใดที่ลูกน้อยอาจจะมีอาการตรงหรือคล้ายกับอาการของลูกชายดิฉันก็คือ โรคส่าไข้
     โรคส่าไข้หรืออีกหลายๆชื่อ เช่น ไข้ออกผื่น ไข้ผื่นกุหลาบในทารก ไข้ดอกกุหลาบ ซึ่งโรคนี้มักจะเกิดขึ้นในเด็ก 6 เดือนถึงขวบครึ่งค่ะ สาเหตุและที่มาของโรคคือการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง สามารถติดต่อกันได้ทางการหายใจ ไอหรือจามรดกัน รวมถึงการสัมผัสกันผ่านมือ สิ่งของหรือสิ่งแวดล้อมที่มีการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าว โดยมีระยะการฟักเชื้อ 5-10 วัน
     อาการที่ลูกชายดิฉันเป็นเริ่มแรกของโรคนี้ที่เห็นเด่นชัดเลยนะคะ คือ วันแรกตอนเย็นตัวร้อนมาก ใช้ปรอทวัดไข้ มีไข้ขึ้นสูงมาก 38-39 องศาเลยทีเดียว ต้องคอยเช็ดตัวระบายไข้ตลอดเวลา และให้ลูกทานยาลดไข้ แต่ลูกก็คงยังร้องไห้งอแง เหมือนไม่สบายเนื้อสบายตัว ร้องให้อุ้มตลอดเวลา  ไม่ค่อยร่าเริง ยิ่งตอนกลางคืนตื่นทุกชั่วโมง ตัวร้อน ร้องไห้งอแง ต้องอุ้มและปลอบ ตบก้น นานมากกว่าจะหลับ แต่พอวันที่ 2 ตื่นเช้ามา อาการของลูกกลับปกติ ทานได้ เล่นซนได้ ตัวไม่ร้อน ใช้ปรอทวัดไข้ก็ไม่มีไข้ จึงยังไม่ได้พาลูกไปโรงพยาบาลเพราะดิฉันคิดว่าลูกอาจจะเป็นไข้ตัวร้อนธรรมดาเพราะเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนบ่อยๆเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว แต่พอตกเย็นของวันที่ 2 ลูกชายกลับมาตัวร้อนอีกครั้ง ไข้ขึ้นสูงเหมือนเดิม เช็ดตัวระบายไข้ ให้ทานยาลดไข้ อาการก็ดีขึ้นแต่ก็ไม่นานลูกชายก็ตัวร้อนอีก ดิฉันจึงตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลก่อนเลยเพราะกลัวว่าลูกจะป่วยเป็นโรคอะไรที่ร้ายแรงหรือเปล่า เช่น โรคไข้เลือดออก โรคหัด หรือโรคอื่นๆ และจากผลการตรวจอย่างละเอียด โดยการตรวจเลือดด้วยนะคะสรุปว่าไม่ได้เป็นไข้เลือดออก ดิฉันถึงกับโล่งอกทันทีเพราะกลัวลูกจะเป็นไข้เลือดออกมากที่สุด และคุณหมอวินิจฉัยเบื้องต้นนะคะว่าลูกชายดิฉันอาจจะเป็น โรคส่าไข้ ที่คุณหมอต้องใช้คำว่าอาจจะเพราะจากอาการที่ดิฉันเล่าให้คุณหมอฟังเบื้องต้นมีโอกาสเป็นได้หลายโรคเช่นกัน ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการของโรคส่าไข้ จะมีอาการตัวร้อน ไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน  ซึ่งเด็กบางรายก็กินนม กินข้าว เล่นซน ได้ตามปกติ แต่บางคนจะมีอาการเบื่ออาหาร เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ ร่วมด้วยค่ะ และหากมีอาการไข้ขึ้นสูงมากๆเด็กอาจจะเกิดอาการชักได้ และเด็กจะมีอาการไข้ 4-5 วัน จากนั้นไข้จะเริ่มลดลง และหลังจากไข้ลดลงจะเกิดผื่นแดงๆขึ้นตามร่างกาย แต่จะไม่ใช่ผื่นคันนะคะ จะเป็นอยู่ไม่เกิน 3 วัน ผื่นนั้นก็จะค่อยๆจางหายไป ซึ่งเด็กบางคนก็อาจจะมีเพียงไข้ขึ้นสูงแต่จะไม่มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายหรือมีเพียงรอยแดงจางๆเท่านั้น ระหว่างที่มีผื่นขึ้นเด็กก็จะร่าเริงและหายเป็นปกติค่ะ ซึ่งโรคนี้พบบ่อยในเด็กเล็กๆค่ะ ไม่ต้องกังวลเพราะโรคนี้เป็นเองและสามารถหายเองได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ และปกติโรคส่าไข้หากผื่นขึ้นแล้วอาการของไข้จะค่อยๆลดลง แต่หากผื่นขึ้นจนจะจางหายแล้วลูกยังมีไข้สูงอยู่ อาจจะไม่ใช่โรคส่าไข้แล้วจึงควรรีบพบคุณหมอด่วนที่สุดเลยนะคะ
     วิธีการรักษาและดูแลเด็กที่มีอาการของโรคส่าไข้ ควรเช็ดตัวลูกบ่อยๆด้วยน้ำธรรมดาเพื่อระบายไข้ ควรเช็ด ตามร่างกายเบาๆและตาม ซอกคอ ข้อพับต่างๆ  ให้ลูกรับประทานยาลดไข้ ทุก 4-6 ชั่วโมงตามที่คุณหมอแนะนำนะคะอย่าไปซื้อยามาให้ลูกทานเอง พยายามให้ลูกดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อช่วยระบายความร้อนในร่างกาย และช่วงที่ลูกไม่สบายลูกจะงอแงมากถึงมากที่สุด คุณแม่ไม่ควรดุหรือว่ากล่าวลูกนะคะยิ่งทำให้ลูกเพิ่มความงอแงมากขึ้น ควรปลอบลูกด้วยการอุ้มเดิน กอด ลูบหลังเบาๆเพื่อคลายความงอแงของลูกด้วยนะคะ และหากลูกมีอาการชักให้เบื้องต้นให้คุณแม่ตั้งสติอย่าตกใจหรือจับตัวลูกเขย่านะคะ ให้จับลูกนอนตะแคงเพื่อไม่ให้ลูกเกิดการสำลัก รีบเช็ดตัวลดไข้ อย่าหาสิ่งของมางัดปากลูกนะคะเพราะฟันลูกจะหักได้ จากนั้นรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น