โรคส่าไข้อีกโรคที่คุณแม่ควรรู้
เวลาของความทุกข์ใจของคุณแม่ทั้งหลายคงจะหนีไม่พ้นเวลาที่ลูกน้อยของเราเจ็บป่วยใช่ไหมคะ
เพราะถึงแม้ว่าคุณแม่จะเฝ้าเลี้ยงดูทะนุถนอมลูกน้อยมากแค่ไหนก็คงหนีไม่พ้นการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆที่มีอยู่มากมาย
จนส่งผลให้ลูกไม่สบายเนื้อสบายตัวจนอาจถึงขั้นพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเลยก็มี ซึ่งสำหรับลูกชายดิฉันเองก็เพิ่งป่วยจากโรคๆหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
จึงอยากมาเล่าสู่กันฟังถึงโรคชนิดนี้ว่ามีอาการเบื้องต้นอย่างไรและมีวิธีการรักษาและดูแลลูกน้อยอย่างไรบ้าง
และโรคชนิดนี้ที่ดิฉันนำมาเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์สำหรับคุณแม่ท่านใดที่ลูกน้อยอาจจะมีอาการตรงหรือคล้ายกับอาการของลูกชายดิฉันก็คือ
โรคส่าไข้
โรคส่าไข้หรืออีกหลายๆชื่อ
เช่น ไข้ออกผื่น ไข้ผื่นกุหลาบในทารก ไข้ดอกกุหลาบ ซึ่งโรคนี้มักจะเกิดขึ้นในเด็ก 6
เดือนถึงขวบครึ่งค่ะ สาเหตุและที่มาของโรคคือการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง สามารถติดต่อกันได้ทางการหายใจ
ไอหรือจามรดกัน รวมถึงการสัมผัสกันผ่านมือ
สิ่งของหรือสิ่งแวดล้อมที่มีการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าว โดยมีระยะการฟักเชื้อ 5-10
วัน
อาการที่ลูกชายดิฉันเป็นเริ่มแรกของโรคนี้ที่เห็นเด่นชัดเลยนะคะ
คือ วันแรกตอนเย็นตัวร้อนมาก ใช้ปรอทวัดไข้ มีไข้ขึ้นสูงมาก 38-39 องศาเลยทีเดียว
ต้องคอยเช็ดตัวระบายไข้ตลอดเวลา และให้ลูกทานยาลดไข้ แต่ลูกก็คงยังร้องไห้งอแง
เหมือนไม่สบายเนื้อสบายตัว ร้องให้อุ้มตลอดเวลา ไม่ค่อยร่าเริง ยิ่งตอนกลางคืนตื่นทุกชั่วโมง
ตัวร้อน ร้องไห้งอแง ต้องอุ้มและปลอบ ตบก้น นานมากกว่าจะหลับ แต่พอวันที่ 2 ตื่นเช้ามา อาการของลูกกลับปกติ ทานได้ เล่นซนได้ ตัวไม่ร้อน
ใช้ปรอทวัดไข้ก็ไม่มีไข้
จึงยังไม่ได้พาลูกไปโรงพยาบาลเพราะดิฉันคิดว่าลูกอาจจะเป็นไข้ตัวร้อนธรรมดาเพราะเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนบ่อยๆเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว
แต่พอตกเย็นของวันที่ 2 ลูกชายกลับมาตัวร้อนอีกครั้ง
ไข้ขึ้นสูงเหมือนเดิม เช็ดตัวระบายไข้ ให้ทานยาลดไข้
อาการก็ดีขึ้นแต่ก็ไม่นานลูกชายก็ตัวร้อนอีก ดิฉันจึงตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลก่อนเลยเพราะกลัวว่าลูกจะป่วยเป็นโรคอะไรที่ร้ายแรงหรือเปล่า
เช่น โรคไข้เลือดออก โรคหัด หรือโรคอื่นๆ และจากผลการตรวจอย่างละเอียด
โดยการตรวจเลือดด้วยนะคะสรุปว่าไม่ได้เป็นไข้เลือดออก
ดิฉันถึงกับโล่งอกทันทีเพราะกลัวลูกจะเป็นไข้เลือดออกมากที่สุด และคุณหมอวินิจฉัยเบื้องต้นนะคะว่าลูกชายดิฉันอาจจะเป็น
โรคส่าไข้ ที่คุณหมอต้องใช้คำว่าอาจจะเพราะจากอาการที่ดิฉันเล่าให้คุณหมอฟังเบื้องต้นมีโอกาสเป็นได้หลายโรคเช่นกัน
ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการของโรคส่าไข้ จะมีอาการตัวร้อน ไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน ซึ่งเด็กบางรายก็กินนม กินข้าว เล่นซน
ได้ตามปกติ แต่บางคนจะมีอาการเบื่ออาหาร เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ ร่วมด้วยค่ะ และหากมีอาการไข้ขึ้นสูงมากๆเด็กอาจจะเกิดอาการชักได้
และเด็กจะมีอาการไข้ 4-5 วัน จากนั้นไข้จะเริ่มลดลง
และหลังจากไข้ลดลงจะเกิดผื่นแดงๆขึ้นตามร่างกาย แต่จะไม่ใช่ผื่นคันนะคะ
จะเป็นอยู่ไม่เกิน 3 วัน ผื่นนั้นก็จะค่อยๆจางหายไป ซึ่งเด็กบางคนก็อาจจะมีเพียงไข้ขึ้นสูงแต่จะไม่มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายหรือมีเพียงรอยแดงจางๆเท่านั้น
ระหว่างที่มีผื่นขึ้นเด็กก็จะร่าเริงและหายเป็นปกติค่ะ
ซึ่งโรคนี้พบบ่อยในเด็กเล็กๆค่ะ
ไม่ต้องกังวลเพราะโรคนี้เป็นเองและสามารถหายเองได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ และปกติโรคส่าไข้หากผื่นขึ้นแล้วอาการของไข้จะค่อยๆลดลง
แต่หากผื่นขึ้นจนจะจางหายแล้วลูกยังมีไข้สูงอยู่ อาจจะไม่ใช่โรคส่าไข้แล้วจึงควรรีบพบคุณหมอด่วนที่สุดเลยนะคะ
วิธีการรักษาและดูแลเด็กที่มีอาการของโรคส่าไข้ ควรเช็ดตัวลูกบ่อยๆด้วยน้ำธรรมดาเพื่อระบายไข้
ควรเช็ด ตามร่างกายเบาๆและตาม ซอกคอ ข้อพับต่างๆ ให้ลูกรับประทานยาลดไข้ ทุก 4-6 ชั่วโมงตามที่คุณหมอแนะนำนะคะอย่าไปซื้อยามาให้ลูกทานเอง
พยายามให้ลูกดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อช่วยระบายความร้อนในร่างกาย
และช่วงที่ลูกไม่สบายลูกจะงอแงมากถึงมากที่สุด
คุณแม่ไม่ควรดุหรือว่ากล่าวลูกนะคะยิ่งทำให้ลูกเพิ่มความงอแงมากขึ้น ควรปลอบลูกด้วยการอุ้มเดิน
กอด ลูบหลังเบาๆเพื่อคลายความงอแงของลูกด้วยนะคะ และหากลูกมีอาการชักให้เบื้องต้นให้คุณแม่ตั้งสติอย่าตกใจหรือจับตัวลูกเขย่านะคะ
ให้จับลูกนอนตะแคงเพื่อไม่ให้ลูกเกิดการสำลัก รีบเช็ดตัวลดไข้
อย่าหาสิ่งของมางัดปากลูกนะคะเพราะฟันลูกจะหักได้ จากนั้นรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น