วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

เรื่องราวดีๆในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า



      
  เรื่องราวดีๆในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
  ตัวผู้เขียนได้มีโอกาสไปช่วยเพื่อนๆดูแลเด็กๆที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นี้ได้สร้างขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ ตอนนั้นคนตายเยอะมากเด็กบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีพ่อไม่มีแม่เพราะพ่อแม่ตายหมดเด็กจึงไม่มีที่พึ่ง แล้วก็มีเศรษฐีชาวต่างชาติและเศรษฐีคนไทยได้ระดมทุนสร้างมูลนิธินี้ขึ้นมา
          ตอนแรกผู้เขียนว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศไปหางานทำแถวนั้นแต่ส่วนมากมีแต่งานโรงแรมหรือไม่ก็เป็นงานในร้านอาหารซึ่งไม่ใช่แนวทางของเรา ก็เลยว่าจะขออยู่เที่ยวก่อนสักเดือนสองเดือนแต่ก็ต้องทำตัวให้มีประโยชน์ด้วย พอดีมีเพื่อนอยู่ที่นั่นและเขาก็พอจะรู้จักกับมูลนิธิแห่งนี้จึงชวนกันไปขอช่วยงานในนั้น
          ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ได้เข้าไปช่วยดูแลเด็กๆในนั้น ที่นั่นเขาได้สร้างเป็นห้องแถวชั้นเดียวมีประมาณยี่สิบกว่าห้อง ซึ่งแต่ละห้องก็กว้างขวางพอสมควรเพราะเขาให้เด็กอยู่ห้องละสี่คนมีทีวี ตู้เย็น พัดลมให้พร้อม ส่วนเครื่องซักผ้าก็จะอยู่บริเวณด้านนอกที่เขาจัดไว้ให้เป็นที่ซักผ้า ในมูลนิธินั้นจะมีน้องๆนักศึกษาที่เป็นคนประเทศสวีเดนจะเปลี่ยนกันมาดูแลเด็กๆคนละสองเดือนแล้วก็จะกลับประเทศไป และจะมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเด็กๆอีกต่างหาก มีแม่บ้านที่จะต้องทำอาหารให้เด็กๆกินทุกวัน
          หกโมงเช้าพวกน้องๆชาวต่างชาติก็จะเดินไปเคาะประตูห้อง Good morning ทุกห้องเพื่อปลุกให้เด็กๆตื่น อาบน้ำ แต่งตัว ไปกินข้าว พอกินข้าวเสร็จเด็กๆก็จะไปยืนต่อแถวเพื่อรับเงินไปโรงเรียนคนละยี่สิบบาท และจากนั้นก็จะมีรถรับส่งของทางมูลนิธิไปส่งที่โรงเรียนทุกเช้า พอถึงเวลาเลิกเรียนเด็กๆกลับมาถึงห้องทุกคนต้องเอาเสื้อผ้าไปซักตากเอง ช่วยกันทำความสะอาดห้องและพื้นที่รอบนอกให้สะอาด เป็นการฝึกระเบียบวินัยให้เด็กๆด้วย จากนั้นก็ให้เด็กๆไปอาบน้ำและให้ไปกินข้าวที่โรงอาหารเวลาห้าโมงเย็น หกโมงเย็นก็ไปรวมตัวกันที่หอประชุมเพื่อทำการบ้านโดยมีพี่ๆเจ้าหน้าที่คอยสอนการบ้านให้ ทำเสร็จก็จะต่อด้วยการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษโดยพี่ๆชาวต่างชาติเป็นคนสอน
          พอถึงวันหยุดเด็กๆก็ต้องตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมตั้งแต่หกโมงเช้าเหมือนทุกๆวันไม่ใช่ว่าวันหยุดแล้วจะนอนตื่นสายได้ ทำกิจกรรมเสร็จหมดทุกอย่างแล้วเด็กๆก็จะได้พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่ทุกเสาร์ อาทิตย์ เจ้าหน้าที่ก็จะพาเด็กๆไปว่ายน้ำหรือไม่ก็จะพาไปเที่ยวตามเกาะต่างๆอยู่แล้ว กลางคืนวันเสาร์ก็จะจัดปาร์ตี้เล็กๆกันเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเงิน และข้าวของที่ได้รับบริจาคมานั้นส่วนมากจะได้รับมาจากประเทศสวีเดน ส่วนที่ไทยก็จะมีทั้งส่วนของภาครัฐและเอกชนเข้ามาไปช่วยอยู่เป็นระยะๆ
          ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยงานในนั้นก็รู้สึกมีความสุขไปกับเด็กๆด้วยที่เห็นพวกเขาไม่ต้องลำบากเพราะไม่มีพ่อไม่มีแม่ แต่ถึงอย่างไรมีความสุขแค่ไหนก็ไม่เท่าอยู่กับครอบครัวของตัวเอง เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อเยียวยาจิตใจของเด็กๆและให้พวกเขาเติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคมต่อไป
          คนเราเกิดมามีพ่อมีแม่กันทุกคน แต่วันใดวันหนึ่งเราไม่มีทั้งพ่อและแม่เราจะอยู่ได้ไหม คำตอบคือต้องอยู่ให้ได้เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ เลือกที่จะเป็นคนดีก็เป็นคนดีได้หรือเลือกที่จะเป็นคนไม่ดีก็เป็นได้เหมือนกัน ซึ่งก็มีเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวหลายๆคนที่มาจากครอบครัวแตกแยกแต่ก็มีหน้าที่การงานที่ดี เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคมก็มีให้เห็นเยอะแยะ เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทุกๆคนที่เกิดมาเพียบพร้อมหรือเกิดมาโดยที่ไม่เหลือใครเลย ขอให้สู้และใช้ชีวิตอย่างมีสตินะคะ
             





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น